เอาหละ!!! ทุกคนวันนี้เราจะมารีวิวรองพื้นที่ตำมาทั้งหมดในช่วงนี้รวดเดียวพร้อมกัน 4 ตัวเลยนะ
1. KVD Vegan Beauty
แบรนด์นี้ถูก Kendo เทคมากจากแบรนด์ Kat Von D เอามาเปลี่ยนชื่อใหม่ซึ่งก็ไม่ต่างจากชื่อเดิมมากนัก เราตามแคทตั้งแต่ทำยูทูปเป็นบิ้วตี้บล็อกเกอร์ จนมาเปิดไลน์เครื่องสำอางใน sephora และดังระเบิดกับรองพื้นปิดรอยสัก (Lock-it Foundation) กับการวางโทนสีเครื่องสำอางเอาใจสายดาร์กKVD VEGAN BEAUTY: True Portrait Foundation : สี Light 21
ราคา 1,500 บาท (Sephora Sale เหลือ 750)จะบอกว่ามันดีก็ไม่ได้ จะบอกว่ามันแย่ก็ไม่ได้ (จิ๊... ปากเบาๆ) ตัวนี้รองพื้นแบบ Liquid to Powder คือ เทออกมาเป็นน้ำพอทาบนผิวซักพักจากแห้งกลายเป็นแป้ง
ข้อดี
1. บางเบา ปกปิดปานกลาง (Medium Coverage) เน้นงานผิว แต่แมทไม่ฉ่ำวาวเหมือนยี่ห้ออื่น เหมาะกับวันสบายๆ
ข้อเสีย
1. ใช้ยากเพราะต้องเขย่าให้รองพื้นเข้ากันนานมาก เขย่าจนปวดแขนกว่าจะได้ใช้ ถ้าเขย่าไม่ดีเนื้อรองพื้นจะออกมาเหลวมีแต่น้ำมันต้องเขย่าจนออกมาเป็นเนื้อครีมถึงจะทาได้ ไม่แนะนำสำหรับวันที่รีบ
2. เกลี่ยยากลองใช้นิ้วมือ ฟองน้ำ แล้วเป็นคราบตรงช่วงไรผม ต้องใช้แปรงถึงจะโอเคสุด ควรแต้มทีละจุดแล้วรีบทาเพราะรองพื้นแห้งไวมาก
3. ติดไม่ค่อยทนเท่าไหร่เมื่อใส่แมส หลุดติดมาค่อนข้างเยอะ หน้าด่างเป็นแมวเลย
4. หลัง 3 ชั่วโมง เหมือนสีจะดรอปลงครึ่งสตอปต้องเลือกขาวกว่าหน้านิดนึง
Comment
ถ้าเป็นคนหน้าแห้งแบบเราบอกได้คำเดียวว่า บำรุงไม่ดีมีคราบ ตกร่องแน่นอน มันจะไปเน้นรูขุมขน ริ้วรอยต่างๆ ชัดเจนมาก
ซื้อต่อมั้ย : ไม่ซื้อแน่นอน ที่มีอยู่ก็ยังไม่รู้จะให้ใครเลย ขนาดเรายังว่าใช้ยากเลย
2. BECCA
แบรนด์ลูกของเอสเต้ โด่งดั่งถล่มถลายในไทยช่วง 4-5 ปีก่อน จากไฮไลท์ Becca Shimmering Skin Perfector Pressed สี Champagne Pop และ Opal หลังๆ มาเริ่มหันมาทำรองพื้นขายไลน์เพิ่มด้วยBECCA : Skin Love Weightless Blur Foundation : สี Buttercup
ราคา 1,850 บาท (Sephora Sale เหลือ 925)ตัวนี้เป็นรองพื้นที่มีสารบำรุงผิวในตัว เนื่องจากผสมวิตามินซี สารสกัดจากอโวคาโด เมลอน และขิง ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส
ข้อดี
1. บางเบา ปกปิดปานกลาง (Medium Coverage) เน้นงานผิวฉ่ำโกลว
2. ติดค่อนข้างทน 6 ชั่วโมง ยังพอได้อยู่ มีหลุดไปบ้างช่วงจมูก ช่วงทีโซน แต่ไม่ได้น่าเกลียด
3. สีไม่ดรอบระหว่างวัน
4. เกลี่ยง่ายมาก ใช้นิ้วมือเกลี่ยได้สบายๆ เหมาะกับวันรีบ ขี้เกียจ
ข้อเสีย
1. สีมีให้เลือกเยอะมาก ต้องค่อยๆ เลือกใจเย็นๆ ให้ BA ช่วยเลือกให้ตรงกับสีผิว
2. มีหลุดลอกบ้างระหว่างวันตรงช่วงจมูก ต้องคอยเช็ค ถ้าเลือกสีไม่ตรงกับผิวจะเน้นให้เห็นชัดมากเวลารองพื้นหลุด
Comment
ถ้าเป็นคนที่เคยใช้ IT COSMETICS Your Skin But Better CC Cream มาก่อน จะรู้สึกว่าตัวนี้หนักหน้าไปนิดเดียว นิดเดียวจริงๆ แต่ตัวนี้จะคุมมันได้ดีกว่าเพราะเป็นรองพื้นไม่ใส่ CC Cream
ซื้อต่อมั้ย : อาจจะต้องคิดนิดนึง ถ้าใครเคยใช้ IT Cosmetics มาก่อนจะรู้สึกว่าตัวนี้ไม่ค่อยสบายผิวเท่าไหร่ ถ้าไม่ลดคงไม่ซื้อ
3. Chanel
กาเบรียล บอเนอร์ ชาแนล (Gabrielle Bonheur Chanel) เริ่มต้นแบรนด์ตั้งแต่ ค.ศ. 1913 ด้วยการทำหมวก เสื้อผ้า แต่ที่ดังสุดๆ คือตอนหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จากน้ำหอม Chanel Number 5 หลังจากนั้นก็ทำกระเป๋า นาฬิกา เครื่องสำอาง จนกลายเป็นแบรนด์ High-End ที่มีประวัติยาวนานร้อยกว่าปีCHANEL : Ultra Le Teint Ultrawear All Day Comfort Flawless Finish Foundation : สี BD31
ราคา 2,500 บาทตัวนี้เป็นรองพื้นเนื้อครีมที่ชาแนลเคลมว่า ปกปิด ติดทนนาน 24 ชั่วโมง (Medium to Full Coverage) แต่สบายผิวไม่หนักหน้า
ข้อดี
1. รองพื้นรุ่นใหม่ๆ ของชาแนลได้มีการเพิ่มมากขึ้น ทำให้เราได้รองพื้นสีเดียวกับผิวเรามากขึ้น
2. เกลี่ยง่ายมากใช้นิ้วมือก็สามารถเกลี่ยได้สบายๆ แต่ที่ชอบใช้กับรองพื้นตัวนี้คือฟองน้ำ เรียบ เนียน กริบ มาก
3. ปั๊มเดียวทั่วหน้า กระจางลง รอยสิวรอยแดงจางลง
4. สีไม่ดรอประหว่างวัน
5. ทีโซนมีมันนิดหน่อย ซับมันไปก็โอเค รองพื้นที่จมูกมีหลุดบ้างช่วงหลัง 6 ชั่วโมงไป ออกกำลังกายเหงื่อออกสภาพรองพื้นยังติดอยู่ดีไม่ลอกหน้าเกลียด
ข้อเสีย
1. แพง แพง และแพง ไม่ลด / ไม่ร่วม / ไม่ On-Top ใดๆ เลย แต่ได้บัตรแต่งหน้าฟรี 1 ครั้งเมื่อซื้อครบ 4,000 บาท
2. รองพื้น สกินแคร์เกือบทั้งหมดของชาแนลมีกลิ่นน้ำหอม คนแพ้ง่ายควรระวัง
Comment
ตัวนี้เทียบกับ Chanel Perfection Lumiere Extreme บอกเลยว่ามันคือตัวเดียวกัน ปกปิดระดับเดียวกัน แต่ทาแล้วสบายหน้ากว่ามากๆ หลังจากลด cost ตัวเองอยู่ 3 ปี ในที่สุดก็กลับมาชาแนลเพราะมีการปรับสูตรใหม่ให้ตามเทรนช่วงนี้คือ ปกปิดแต่ได้งานผิว ไม่หนักหน้า สาเหตุที่เปลี่ยนไปแบรนด์อื่นเพราะส่วนนึงสภาพผิวหน้าเปลี่ยน พอใช้ Perfection มันทำให้หน้าดูแคร็ก ถ้าใช้ Vitalumiere ก็ไม่ค่อยปกปิด ถ้ามีตังค์ตัวนี้ก็คงซื้อต่อเรื่อยๆ
ซื้อต่อมั้ย : ซื้อต่อแน่นอนค่ะ
CHANEL : LE BLANC Whitening Compact Foundation : สี 30 Beige
ราคา 2,600 บาทแป้งผสมรองพื้นที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส สีผิวเนียนสม่ำเสมอ เบลอรูขุมขน ติดทนนานตลอดวัน
ข้อดี
1. ช่วยผิวกระจ่างใสรึป่าวไม่รู้ แต่เบลอรูขุมขนได้แน่นอน
2. ติดทนนานจริงๆ ใช้คู่กับรองพื้นชาแนล ออกกำลังกาย มีเหงื่อ หน้าก็ยังโอเค
3. แป้งเนื้อละเอียดมาก ปกปิดได้ปานกลาง แต่ไม่ดูหนาโบ๊ะ ยังได้งานผิวอยู่
4. ตัวพัฟสองด้านไม่เหมือนกัน ด้านนึงเป็นฟองน้ำฟูๆ สำหรับลุคเบาๆ สบายๆ อีกด้านเป็นฟองน้ำกำมะหยี่ สำหรับลุคหน้ากริบแน่น
(แต่วิธีลงแป้งที่ชอบที่สุดคือแปรง ข้อเสียคือเปลือง)
5. ซองใส่ตลับแป้งเปลี่ยนจากกำมะหยี่เป็นหนังเทียม ดูน่าใช้งานมากขึ้นกว่าเดิม แบบเดิมใช้ซักพักดูอมฝุ่น
ข้อเสีย
1. แพง แพง และแพง ไม่ลด ไม่ร่วม ไม่ On-Top ใดๆ
2. สีแป้งของชาแนลยังไม่เพิ่ม เหมือนรองพื้น ยังคงมีอยู่ไม่กี่สีเหมือนเดิม
3. น้ำหอมใส่มาแน่นอน กลิ่นตามสไตล์ชาแนล ใครแพ้ง่ายต้องระวัง
Comment
ไม่เคยใช้แป้งรุ่นนี้มาก่อนเลย ปกติจะใช้รุ่นแมตท์ รุ่นบางเบา ไม่เคยมารุ่นไวเทนนิ่งซักที แต่รวมๆ แล้วโอเคคุมมันได้ดี สีไม่ดรอป หน้าไม่มันระหว่างวัน จุดสำคัญคือรองพื้นชาแนลจะคุมมันได้ดีที่สุดเมื่อใช้คู่กับแป้งชาแนล ซื้อรองพื้นก็ต้องซื้อแป้งแน่นอน
ซื้อต่อมั้ย : สีรองพื้นยังเป็นที่ถกเถียงในใจปกติใช้รองพื้น 20 Beige แป้งจะใช้ 10 Beige มันจะได้สีที่พอดีกับผิว แต่รอบนี้ BA เลือกให้ไป 30 Beige รู้สึกว่ามันหมองไปนิดดูไม่ค่อยสดใส อาจจะแเปลี่ยนไลน์ใหม่หรือเปลี่ยนสีแป้งใหม่
4. Yves Saint Laurent
YSL เริ่มต้นแบรนด์มาจากการออกแบบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย จนเป็นที่ยอมรับได้แวดวงแฟชั่น แต่ในปี ค.ศ. 1966 ทางแบรนด์เริ่มขยายตลาดหันมาผลิตเครื่องสําอางและนํ้าหอม ซึ่งนํ้าหอมที่โดนเด่นจนได้รับความมากนิยมที่สุดคือ Opium ส่วนเครื่องสำอางของแบรนด์นี้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดน่าจะเป็นลิปสติกที่ขายดิบขายดี ไปเค้าเตอร์ไหนสีฮิตหลายๆ สีก็หมดตลอด
YSL ALL HOURS FOUNDATION (BD20)
ราคา 2,500 (Central ลด 10% เหลือ 2,250 / Konvy 2,350)ส่วนเราใช้แต้มจากบัตรเครดิตลดไปอีกเจ็ดร้อยซื้อมาในราคา 1,550฿
เป็นรองพื้น Medium to Full Coverage ที่ควบคุมความมันแต่ให้ลุคไม่แมทจนเกินไป ติดทนนานตลอดวัน ปกปิดได้ดีแต่สบายผิว
ข้อดี
1. รองพื้นปกปิดได้ค่อนข้างดี ช่วยเบลอรูขุมขน แต่ถ้าจะกลบรอยสิว รอบดำ กระ ฝ้า ต้องบิ้ว 2 รอบถึงจะดูจางลง
2. ผ่านไป 3-4 ชั่วโมงหน้าจะเริ่มโกลว์ มีหลุดบ้างตรงจมูกเล็กน้อย ( อาจเพราะช่วงนี้ใส่แมส แต่รู้สึกว่า Lancome คุมมันดีกว่า)
3. 5-8 ชั่วโมงก็ยังได้อยู่สีไม่ดรอป ทีโซนหลุดนิดหน่อย แต่ไม่น่าเกลียด ซับมัน ลงแป้งใหม่ได้ไม่เป็นคราบไม่น่าเกลียด
4. ใช้ Beauty Blender เกลี่ยง่ายกว่า จะให้ลุคที่บาง เนียน กว่าแปรงแต่ยังปกปิด
5. แดดออก ออกกำลังกายเหงื่อท่วม ตากฝน ไม่เป็นคราบ ไม่ไหลเยิ้ม ( อย่าถูให้ซับหน้าแทน)
6. คุมมันและติดทนดีกว่า Bobbi Brown Skin Long-Wear Weightless
ข้อเสีย
1. ไม่เหมาะกับคนผิวแห้ง เห็นหลายๆคนที่มีผิวแห้งบอกว่าใช้แล้วตกร่อง รวมที่เราด้วย มันไปช่วยเน้นพวกริ้วรอยเล็กๆ ให้ชัดขึ้น
2. มีกลิ่นน้ำหอม คนที่แพ้ง่ายควรระวัง ไปลองทดสอบให้ดีๆ ก่อนซื้อ
3. มีความรู้สึกว่าเกลี่ยยากกว่า Chanel ultra le teint / Bobbi Brown Skin Long-Wear Weightless / Lancome teint idole ultra wear
4. เค้าเตอร์น้อยลำบากในการเดินทางไปเลือกสีครั้งแรก แต่ถ้าใครมีสีที่ตรงกับผิวแล้วซื้อออนไลน์ได้
Comment
เพราะเรารีบไปซื้อหลังเลิกงานช่วงเคอร์ฟิว ทำให้ได้สีไม่ตรงกับผิว ยิ่งใครใส่แว่นแบบเราเวลารองพื้นตรงจมูกหลุด ถ้าสีรองพื้นไม่ตรงมันจะเห็นความแตกต่างชัดมาก เวลาเลือกสีรองพื้นควรใช้เวลา ลองกับหน้า ทาแล้วไปเดินเล่นก่อนดูว่าสีมันออกซิไดซ์มั้ย จะได้ไม่เฟลแบบเรา
ซื้อต่อมั้ย
ถ้ามีเวลาไปเลือกสีที่ตรงกับผิว เราคิดว่าตัวนี้เป็นรองพื้นอีกตัวที่เราจะซื้อต่อค่ะ