Jo Malone VS Burberry

Jo Malone English Pear & Freesia

VS

My Burberry Blush

       อยากรีวิวแต่ไม่รู้จะรีวิวยังไงดี เอาเท่าที่ฟังๆ เค้าเล่ามากันเนอะ แอดซื้อเองเจ็บไม่มีสปอนเซอร์นะคะ ต้องบอกก่อนว่าไม่มีความรู้เรื่องน้ำหอมมาก่อนเลย กว่าจะตัดสินใจซื้อได้ ดูรีวิวเยอะมาก ฟังไลฟ์ขายในเฟสบุ๊คอยู่หลายเดือนกว่าจะตัดสินใจได้

ในที่สุด........ ก็ได้ 2 ขวดนี้มา

Jo Malone English Pear & Freesia

          ป้าโจแพงติดไม่ต่อยทน เพราะนางเป็น EDC (Eau de Cologne) แต่กลิ่นนางดี ละมุนตุ้นมาก เหมาะกับวันสบายๆ อยากสดชื่น ใสๆ เบาๆ 

✳ Top ได้กลิ่นแพร์นำหน้ามาเลยหวาน หอมไม่เลี่ยน
✳ Mid, Base กลิ่นดอกฟรีเซียจะชัดขึ้น 

ส่วนตัวเรามีเติมระหว่างวันช่วงเที่ยงๆ บ่ายๆ ค่ะ เราฉีดตรงหลังหูหรือซอกคอจะรู้สึกได้กลิ่นอ่อนๆ เกือบตลอดวัน คนใกล้ตัวก็มีทักบ้างว่าได้กลิ่นหอมอ่อนๆ เวลาเราขยับตัว

Burberry : My Burberry Blush

          บลัชจะหอมหวาน ซ่อนเปรี้ยว เหมาะกับวันที่ต้องการความติดทน สดใส นางเป็น EDP (Eau de Parfume) 

✳ Top จะหวานมากหน่อย เราค่อนข้างไม่ชอบ แอบฉุนนิดๆ
✳ Mid, Base แต่พอผ่านไปซักพัก ความฉุนลดลง ความหวานมันชัดเจนละมุนขึ้นมาก เปรี้ยวนิดๆ

          ตอนแรกฟังรีวิวในไลฟ์สดจากร้านที่ซื้อ ก็ยังลังเลมากกว่าจะใช้ซื้อตัวนี้ดีมั้ย เลยต้องหาข้อมูลเพิ่มอยู่สักพักนึงค่ะ สุดท้ายก็ลองซื้อมา ครั้งแรกที่ฉีดเรารู้สึกว่าแรงไป แต่พอผ่านไปซักครึ่งชั่วโมง แม่เจ้า!! มันดี รู้สึกว่าตัวเองหอมหวานมาก น่ากินมาก ฮาฮ่าๆๆๆ

ประเภทของน้ำหอม

สรุป : สายซอฟไปโจ / สายหวานไปบลัช

          กลิ่นสุภาพทั้งคู่ หอมแต่ไม่ทำร้ายคนรอบข้าง ไม่ฟุ้งละมุนอยู่กับตัว ใครกลัวจะไม่ถูกใจลองดมกลิ่นตามห้าง หรือหาไซส์ทดลองมาลองก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าชอบค่อยซื้อขวดใหญ่

ร้าน FB: 4all - Bags4all ทางร้านให้คำแนะนำดีมากค่ะ เราซื้อจากร้านนี้ค่ะ ราคาดีมาก มีทั้งแบ่งขาย และขวดใหญ่

Youtube : Malinee Channel เป็นช่องรีวิวน้ำหอมเราชอบดูที่สุดแล้วค่ะ

#เขียนให้ใครอ่าน
#รีวิวน้ำหอม #โจมาโลน #JoMalone #เบลอเบอรี่ #Burberry