15 Apr 18
วันนี้เราตื่นกันสายไม่ทันอาหารเช้าหลังจากที่เก็บของเรียบร้อยก็ลงมาเช็คเอาท์ ไปสถานีชินจูกุกันก่อนค่ะ เพราะเราต้องจองตั๋วรถไฟไปสนามบินและเอากระเป๋าไปฝากไว้ที่ล็อคเกอร์ก่อนค่อยออกเที่ยวต่อ เราออกจากซับเวย์แล้วมองหาป้ายสถานี JR Shinjuku จากตรงนี้เดินค่อนข้างไกล ระหว่างทางเราเห็นว่ามีตู้ล็อคเกอร์ใหญ่ๆ ว่างค่อนข้างเยอะเหมือนกัน แต่เราอยากหาที่ฝากให้ใกล้ที่สุดตอนขึ้นรถไฟไปสนามบินจะได้ไม่ต้องเดินไกล เราโชคดีอีกแล้วที่เจอตู้ใหญ่ที่ว่างเพราะกระเป๋าเราขนาด 28 และ 24 นิ้วค่ะ เสียค่าฝากใบละ 800 เยน ต้องจ่ายเป็นเหรียญเท่านั้นเราต้องวิ่งไปซื้อของเพราะแถวนี้ไม่มีเครื่องแลกเหรียญ T^T ละลายเหรียญไปเมื่อวานเอง จงเก็บใบเสร็จหรือถ่ายรูปเก็บไว้ให้ดีเพราะตอนเอาออกเราต้องมากดรหัสนี้เพื่อเปิดตู้ค่ะ
ฝากของแล้วก็ไปจองตั๋วขากลับเราเลือกนั่ง N'ex ในการเดินทางเข้าสนามบินค่ะ ราคาจะแพงกว่า Keisei Skyliner แต่เราไม่ต้องต่อรถไปหลายรอบสำหรับใครที่พักชินจูกุเป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียวค่ะ เครื่องเราออก 21.40 น. เราทำการเช็คอินเรียบร้อยแล้วเลยไม่ต้องห่วงอะไรมาก แต่เรากับแฟนคิดว่าไม่อยากรีบเพื่อเวลาซื้อของที่สนามบินกันอีกนิดหน่อยดีกว่า เราเลยเลือกกลับ N'ex รอบ 15.40 นาที ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนิดๆ ถึงสนามบินนาริตะค่ะ
วิธีเดินทาง: Shinjuku >> Narita Airport / Terminal 2
เราถึงสนามบินนาริตะประมาณห้าโมงกว่าๆ ผลของการวิ่งไปวิ่งมาหลายรอบทำให้เรากับแฟนเริ่มรู้สึกหิว เลยตกลงกันว่าจะขึ้นไปหาอะไรกินกันก่อนเดินวนดูหลายร้านตัดสินใจเข้าร้าน "Asian Cafe BlowBlow" สั่งอาหารมาคนละเซ็ต เราหาที่นั่งใกล้ๆ ริมหน้าต่างที่คนไม่พลุกพล่านพอเครื่องส่งสัญญานดังก็เดินไปรับอาหารที่สั่งไว้
ฝากของแล้วก็ไปจองตั๋วขากลับเราเลือกนั่ง N'ex ในการเดินทางเข้าสนามบินค่ะ ราคาจะแพงกว่า Keisei Skyliner แต่เราไม่ต้องต่อรถไปหลายรอบสำหรับใครที่พักชินจูกุเป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียวค่ะ เครื่องเราออก 21.40 น. เราทำการเช็คอินเรียบร้อยแล้วเลยไม่ต้องห่วงอะไรมาก แต่เรากับแฟนคิดว่าไม่อยากรีบเพื่อเวลาซื้อของที่สนามบินกันอีกนิดหน่อยดีกว่า เราเลยเลือกกลับ N'ex รอบ 15.40 นาที ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนิดๆ ถึงสนามบินนาริตะค่ะ
วิธีเดินทาง: Shinjuku >> Narita Airport / Terminal 2
ฝากกระเป๋าจองตั๋วแล้วเราก็ไปหาข้าวกินแถวฮาราจุกุกันก่อนยังไม่ได้กินข้าวกันเลย เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งกันไปซะก่อน ร้านนี้ชื่อว่า "Roast Beef Ohno" เป็นร้านข้าวหน้าเนื้อที่ไม่ธรรมดาเพราะมีเมนูที่ใช้เนื้อวากิวและเนื้อออสเตรเลียคะ แน่นอนว่าเรามาถึงญี่ปุ่นก็ต้องเลือกกินเนื้อวากิวเป็นธรรมดา เราเลือกชามเล็กสุดเพราะกลัวจะกินไม่หมด ราคาอยู่ที่ 1,620 เยน แต่มันอร่อยมากเนื้อนุ่มละลายในปาก หอม หวาน มัน ดีต่อใจสำหรับคนชอบเนื้อ เราจัดให้เมนูนี้เป็นที่สุดของทริปค่ะ
ตอนเรามาถึงร้านยังไม่มีคิวเลยที่นั่งยังว่างหลายที่แต่พอเรากินเสร็จเดินออกมาปรากฏว่าคิวร้านนี้ยาวมาก นั่งรถไปต่อไปที่ชิบูย่าเพื่อไป Tokyu Hand ร้านนี้จะเน้นพวกของ DIY เราอยากได้ของน่าสนใจไปฝากที่บ้านและเรากับแฟนอยากได้ปากกาเลยต้องมาแวะค่ะ สาขานี้ค่อนข้างใหญ่มีทั้งหมด 9 ชั้น แต่ละชั้นยังแบ่งเป็นย่อยๆ เป็นโซน A B C อีกด้วย เดินกันขาลากเลยทีเดียวเพราะที่นี่มีตั้งแต่อุปกรณ์เดินป่ายันของใช้สัตว์เลี้ยง ของคุณภาพค่อนข้างดีราคาก็ตามคุณภาพค่ะ
ปากกา 4 แท่ง ราคาเกือบพัน |
เราหมดเงินกับห้างนี้ไปประมาณ 3 พันกว่าบาท เป็นห้างที่ได้ของน้อยชิ้นที่สุดและละลายทรัพย์ไวที่สุด ขนาดว่าเรากับแฟนตัดใจไม่ซื้อของหลายอย่างแล้วยังหมดกันขนาดนี้ ที่เราได้มามีกริ่งติดจักรยานเสียงใสๆ ไฟติดจักรยาน ไฟคาดหัวสำหรับทำงานช่าง ยาสระผมชิเซโด้ กระเป๋าดินสอ และปากกา 6 ด้าม
เราอยู่ในนี้กันตั้งแต่เที่ยงจนเกือบบ่ายสามคิดว่ากลับไปหาที่นั่งพักแถวสถานีชินจูกุดีกว่า นั่ง JR กลับมาชินจูกุงานงอกอีเว้นเกิดค่ะ เราสองคนลืมว่าฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อคเกอร์ตรงไหน เราจำได้แค่ว่ามีสตาร์บัคอยู่ใกล้ๆ มีร้านขายของสีเขียว ใกล้เค้าเตอร์ขายตั๋วชินคันเซ็น วิ่งหากันอยู่ 10 นาทีกว่าจะเจอค่ะ เล่นเอาเหนื่อยกันเลยทีเดียว สำหรับใครที่จะฝากกระเป๋าที่ล็อคเกอร์เราแนะนำให้ปักหมุดไว้ค่ะอย่ามั่นใจในการจำแบบเรา
ได้เวลาลากกระเป๋ากลับบ้านแล้ว มองดูบนจอว่า N'ex รอบ 15.40 น. ต้องไปขึ้นที่ Platform 5 ระยะทางเดินจากจุดที่ขายตั๋วไปขึ้น N'ex ค่อนข้างไกลดีที่เราเผื่อเวลาไว้ไม่งั้นได้วิ่งกันอีกแน่ๆ
เราจองที่นั่งไว้ที่ Car No. 4 / 7A และ 7B ค่ะ พอรถมาเราก็เก็บกระเป๋าแล้วเดินมานั่งประจำที่ตัวเอง เราพบความจริงอันโหดร้ายที่ว่า N'ex จอดที่ชิบูย่าด้วย เป็นความผิดพลาดของเราเองที่ไม่เช็คให้ดีก่อนเสียเวลาวิ่งไปวิ่งมาเราจำแค่ว่าต้องขึ้นที่ชินจูกุอย่างเดียว T^T
ด้วยความเหนื่อยเราหลับไปเกือบตลอดทางแต่ก็ยังระแวงกลัวจะลงผิด Teminal เราต้องลงที่ T.2 ถ้านั่งเลยไปลง T.1 คงทำให้เสียเวลาอีกแน่วันนี้เราวิ่งกันพอแล้ว (ตั๋วที่จองมาเป็น T.1 คาดว่าพนักงานอาจจะจองให้จนสุดสายยังไงก็ราคาเดียวกัน) พอใกล้ถึงเราก็ปลุกแฟนงานวิ่งยังไม่จบค่ะเพราะเราดันลืมว่าเอากระเป๋าไว้ด้านหน้าหรือด้านหลังรถไฟ เราบอกด้วยความมั่นใจด้านหน้านะ เดินไปด้วยความั่นหน้าสุดท้ายต้องออกจากรถแล้ววิ่งกลับไปด้านหลังค่ะ แฟนไขกระเป๋าออกไปแล้วส่วนเราไขได้แต่สายคล้องพันกันลำบากคนไปด้วยต้องมาแกะออกให้ลากกระเป๋าลงมาสองใบ 5555555555+++
เราจำราคาแน่นอนไม่ได้แต่ราคาน่าจะตกเซ็ตละประมาณ 1,500 เยนค่ะ รสชาติอร่อยตามสไตล์ญี่ปุ่น เนื้อดีต่อใจดีต่อประสาทรับรู้รสของเรามาก ส่วนของแฟนเราเป็นข้าวหน้าไก่เทอริยากิรสชาติก็โอเคแต่ของเราอร่อยกว่า (^0^)
กินข้าวเรียบร้อยแล้วเราก็แวะซื้อขนมกลับบ้านกันอีกนิดหน่อย และด้วยความขี้เกียจหอบของไปมาและน้ำหนักก็ยังไม่เกิน เราเลยหาที่เหมาะๆ เปิดกระเป๋าจัดของใหม่เอาขนมที่พึ่งซื้อมายัดลงไป เสร็จแล้วก็ไปโหลดกระเป๋ากัน เราคุยกับแฟนว่าเข้าไปเลยดีกว่ารีบผ่านต.ม.ไปหาที่นั่งรอดีกว่าเผื่อคนเยอะจะได้ไม่เสี่ยงตกเครื่อง เรารอผ่านจุดตรวจนานมากไม่แน่ใจว่าเกินอะไรขึ้นทำให้เราเสียเวลาอยู่ตรงนั้นครึ่งชั่วโมง ผ่านกระบวนการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเราก็มานั่งรอเรียกขึ้นเครื่องที่หน้าเกท และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องขึ้นเครื่องกลับบ้าน
การขึ้นเครื่องกลับบ้านทั้งจาก นาริตะ > กัวลาลัมเปอร์ > สุวรรณภูมิ เราแทบไม่ได้นอนเลยถึงแม้ว่าเบาะจะกว้างนั่งสบายกว่าโลคอส (แฟนเราสูงร้อยแปดสิบก็ยังยืดขาได้สบายมาก) เพราะมีเด็กร้องตลอดการเดินทางทั้งสองไฟท์ โชคดีที่มีหนังให้เราดูไปตลอดกว่าจะถึงบ้านดูจบไป 3 เรื่อง อาหารเราไฟท์จากนาริตะเราค่อนข้างชอบอร่อยทุกอย่างเลย ยกเว้นแซนวิซที่ได้รับก่อนลงจากเครื่องแข็งมากเหมือนกินขนมปังหิน
สำหรับมาเลย์เซียแอร์ไลน์เราว่าบริการค่อนข้างโอเคเลยอาหาร น้ำดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีเดินแจกตลอดคืน แต่ที่ไม่ประทับใจคือบริการภาคพื้นที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์ค่ะ เริ่มตั้งแต่เราถามทางทรานซิสพนักงานไม่ยอมพูดอะไรชี้ให้ไปดูบอร์ดอย่างเดียว หน้าเกทแสดงชื่อไฟท์ให้เราเข้าจุดตรวจแค่แปปเดียวค่ะ จนเราเริ่มงงว่าเราตกเครื่องรึป่าวถามอะไรก็ไม่ได้รับคำตอบเท่าไหร่ หน้าเหวี่ยงใส่ตลอด อาจจะเป็นเพราะเราทรานซิสเครื่องครั้งแรกด้วยเลยพออะไรที่มันไม่ชัดเจนไม่ได้คำตอบเลยยิ่งกังวล แต่สุดท้ายก็ถึงสุวรรณภูมิด้วยดี อ่อเครื่องจากมาเลยเซียมาสุวรรณภูมิดีเลย์ไปอีกหนึ่งชั่วโมงและเจอเด็กทุบเบาะเกือบตลอดการเดินทาง
THANK YOU !!!
สำหรับใครที่เสียสละเวลาอ่านมาจนถึงตอนนี้ขอบคุณมากๆ (*_/\_*)นะคะ