8 Apr 18
เมื่อวานเราคุยกับแฟนว่าเราไม่อินกับวัดเลย รู้สึกว่าเฉยๆ กับการมาเที่ยวเกียวโต ฉะนั้นวันนี้เราจะเปลี่ยนแผน วัดอื่นๆ ไม่ไปแล้ว Kiyomizudera ก็ยังปิดซ่อมอยู่ ถึงไปก็เท่านั้น เอาเวลาไปเที่ยวที่อื่นดีกว่า
วันนี้ก็ยังคงตื่นเช้าเช่นเคย 4.30 น. เราก็ลุกอาบน้ำแต่งตัว จัดของกันไปจัดของกันมาสุดท้ายก็ไปไม่ทันรถไฟไป Saga-Arashiyama Station เที่ยวแรกเลยต้องไปเที่ยว 6.04 แทน
ก่อนมา Arashiyama เราได้หาเส้นทางเดินเข้าป่าไผ่มาแล้ว เราต้องออกทาง South Exit เพื่อไป Arashiyama Bamboo Forest หรือ ป่าไผ่นั่นเอง หลังออกจากสถานีให้เดินเลี้ยวขวาไปตามทางเล็กๆ ที่เป็นเส้นทางจักรยาน เปิด GPS ตามไปด้วยกันพลาด เพราะตอนนี้ยังเช้ามากเส้นทางที่เดินมาจึงค่อนข้างเงียบ คาดว่าคนญี่ปุ่นคงยังไม่ตื่นกัน เรามีเพื่อนร่วมทางประปราย ทุกคนน่าจะมีจุดหมายเดียวกันคือป่าไผ่ ระหว่างเดินไปป่าไผ่ก็แวะถ่ายรูปกันเป็นพักๆ
เดินมาถึง Nonomiya Shrine เราก็จะเจอพระกวาดถนนอยู่ ระหว่างที่เราเดินผ่านเค้าก็จะหยุดกวาด บางคนก็ทักทายเราเป็นภาษาญี่ปุ่น เราก็ทักทายกลับไปตามมารยาท มาเที่ยวได้ 2 วันจำไม่ได้ว่าโค้งไปแล้วกี่รอบ 555+++
ก่อนถึงศาลเจ้าจะมีป้ายบอกทางเข้าป่าไผ่ เราก็เลี้ยวซ้ายไปตามไปเลย ช่วงนี้คนยังไม่เยอะเราเลยได้ถ่ายรูปแบบสบายๆ ไม่แออัด แต่จุดที่สวยที่สุดดันโดนช่างภาพถ่ายพรีเว้ดดิ้งกลุ่มนึงมาจับจอง ยืนรอแล้วรออีก เค้าก็ยังถ่ายไม่เลิก โอเคเดี๋ยวเดินมาใหม่
เราเห็นต้นซากุระบานอยู่ทาง Kameyama Park ลิบๆ เลยชวนแฟนมาเดินเล่นก่อน เราเดินขึ้นไปจุดชมวิวด้วย ระยะทางเดินขึ้นมาไม่ไกลมา ทางเดินง่ายไม่ลำบากอะไร จุดชมวิวนี้เราคิดว่าช่วงใบไม้แดงคงสวยมากแน่ๆ ตอนที่เรากำลังยืนถ่ายรูปอยู่มีคุณยายชาวญี่ปุ่นท่านนึงเดินมา ปีนขึ้นบนเก้าอี้นั่งตรงจุดชมวิว แล้วอยู่ๆ แกก็ร้องตะโกนอะไรซักอย่างขึ้นมา เรากับแฟนตกใจเพราะตรงนั้นมันเงียบมาก แกตะโกนอยู่สองประโยคทำท่าเหมือนไหว้อะไรซักอย่างแล้วก็ไป เราสองคนก็ได้แต่มองหน้ากันแล้วยิ้มๆ ไม่กล้าหัวเราะแรงกลัวคุณยายแกได้ยิน (เดาเอาเองว่าคงเป็นการไหว้เทพเจ้าซักอย่าง)
จากจุดชมวิวกลับลงมาด้านล่างจะเจอทางเดินไปตรงจุดที่มีดอกท้อบานสะพรั่งอยู่ (กำลังติดซีรี่ย์ป่าท้อต้องแวะถ่ายรูปซะหน่อย) ซากุระโรยหมดแล้ว แต่ได้ดอกท้ออลังการขนาดนี้โอเค!! เกียวโตยังได้อยู่
เราย้อนกลับไปดูตรงป่าไผ่เพื่อดูว่าแก็งค์พรีเว้ดดิ้งเลิกไปรึยัง เห็นกำลังยกขาตั้งกล้องออกเรากับแฟนก็ดีใจ เย้!! คงเลิกแล้ว แต่ที่ไหนได้ยกขาตั้งกล้องออกให้เอารถสปอร์ตเข้าไปเพื่อเป็นพร็อพในการถ่ายรูป สองเท้าที่กำลังก้าวไปข้างหน้าหยุด กึก ร่ำร้องในใจ เชี้ยยยยยย !!!! เลยบอกกับแฟนว่าเราได้รูปแล้วไปที่อื่นกันดีกว่า
เราเลยเดินย้อนกลับไป Kameyama Park อีกรอบ ทีนี้เดินไปตามป้าย Togetsu-kyō 渡月橋 เพื่อไปสะพานโทเคะทสึ เราตัดสินใจถูกมาที่หาข้อมูลมาก่อนหน้าแล้วรู้ว่าสวนนี้ตัดออกไปตรงสะพานได้ ระหว่างทางในสวนมีต้นไม้สวยๆ เยอะมาก แปลกตา นี่สินะเรียกว่า "จุดหมายไม่สําคัญเท่ากับระหว่างทาง"
เดินออกจากสวนมาเราก็หันไปเห็นตู้กดน้ำ สิ่งที่เราตามหาอยู่คือ ซุปข้าวโพด ตั้งแต่มาถึงแวะดูทุกตู้กดแต่ก็ยังไม่เห็นซักที่ (เห็นคลิป Ilovetogo กินกันแล้วเค้าว่าดี ตัวพี่นี้ก็อยากลอง) นั่งพักขาตรงที่นั่งริมแม่น้ำ Katsura มองดูเวลายังไม่ถึง 7 โมงเช้าเลย วันนี้วันชิลล์ไม่รูป น้ำใสเห็นตัวปลา ปลาตัวใหญ่ๆ อ้วนๆ ทั้งฝูง อากาศเย็นๆ กำลังดี ฟินอะไรเช่นนั้น เราสังเกตุว่าแถวนี้มีเจ้าของพาหมามาเดินเล่นตอนเช้าเยอะมาก แต่น่าแปลกใจคือถนนสะอาดมาก ไม่มีฉี่ไม่มีอึหมาให้เห็นเลย พอดีมีน้องหมาตัวนึงอึเราเห็นเจ้าของเอาอุปกรณ์ออกมาเก็บเรียบร้อย นี่สินะที่มาของความสะอาด
เดินมาเรื่อยๆ เราก็จะเจอกับร้านกาแฟที่ช่วงนี้ดังมากใน Arashiyama "ร้าน % Arabica Arashiyama" เราถามแฟนว่ากินมั้ยร้านนี้ช่วงนี้ฮิตนะคิวน้อยด้วย เลยฝากสั่งโก้โก้หรือช็อคโกแลตร้อนเพราะเราไม่กินกาแฟ แต่สรุปว่าร้านนี้มีแค่กาแฟกับพวกขนมปังขายเท่านั้นเราก็อดกินไป ซดชาร้อน (ซึ่งไม่ร้อนแล้ว) จากตู้กดต่อไป
ตอนนี้เวลา 8 โมงนิดๆ เราสองคนเริ่มหิว จริงๆ ตั้งใจมารอกินโซบะร้าน Arashiyama Yoshimura แต่อีกตั้งชั่วโมงแหนะ รู้สึกเหมือนฝนเริ่มปรอยๆ ลงมาด้วย สุดท้ายเราก็เลยตัดใจไม่รอเดี๋ยวไปหาอะไรกินที่ตลาด Nishiki ก็ได้
วิธีเดินทาง: Saga-Arashiyama Station >> Kyoto Station 240 เยน >> Shijo Station 210 เยน
เราเดินออกมาจาก Shijo Station Exit 1 ตอนขึ้นมาก็ว่าเช็คดีแล้วว่าต้องเดินไปทางไหน สุดท้ายเราก็หลง ระหว่างเดินหลงทางเราก็ถ่ายรูปเล่นไปด้วยเพลินๆ แต่พอรู้ตัวว่าหลงมาไกล ต้องเดินย้อนกลับไป 1.8 km ไม่มีรถไฟผ่าน ความสนุกความเพลินก็เปลี่ยนเป็นเสียงโอดครวญทันที
เดินหลงไปเรื่อย |
เห็นปลาไหลเสียบไม้กับไข่ม้วนดูน่ากินดีเลยหยิบมาคนละไม้ หื้อออออออ เย็นอะไรเบอร์นั้น ไม่อุ่นให้เลยหรอ ถามว่าอร่อยมั้ยตอบเลยว่าจะดีมากถ้ามันร้อน พอไม่มันแล้วก็ไม่อร่อยเท่าไหร่
เรารู้สึกว่ายังไม่อิ่มเลยมองหาอะไรกินเพิ่ม เจอคนต่อคิวซื้อทาโกะยากิเยอะพอสำควร ร้านนี้สั่งง่ายเพราะมีเมนูภาษาอังกฤษอยู่หน้าร้าน แต่มันไม่ง่ายอย่างที่เราคิดเพราะเราต้องหยอดเหรียญกดบัตรจากตู้เพื่อซื้อทาโกะยากิ ยื่นบัตรให้พนักงานและรอรับอาหาร รสชาติทาโกะยากิร้านนี้เราว่าโอเคแต่ไส้หมึกชิ้นเล็กไปหน่อย ส่วนตัวแป้งเป็นแบบนิ่มต่างจากที่มีขายในไทย
ตบท้ายด้วยวาราบิโมจิกับซากุระโมจิเลยลองซื้อมาอย่างละอัน วาราบิโมจิอร่อยมาก ซากุระโมจิก็ใช้ได้แปลกๆ ดีไม่หวานมาก
จบจากตลาดเราก็อยากไป Book off หาเสื้อกันหนาวมือสองเพราะมีคนบอกไม่หนาวเราเลยเอาเสื้อกันหนาวมาตัวเดียว แถมโดนลมแล้วก็ไม่ค่อยอุ่น อุตส่าห์ไม่ไปกินโซบะร้าน Honke Owariya เพื่อไปหาเสื้อกับ DVD แต่เราก็ไม่ได้อะไรเลย เหนื่อยจะเดินกันแล้วเลยตัดสินใจว่ากลับไปนอนและพักขาซะหน่อย เย็นๆ ค่อยออกมาเดินเล่นแถวตรอก Higashiyama
เราเดินไปสำรวจไปเรื่อยๆ แวะกินโมจิกับวาราบิโมจิของ "ร้าน Fujinami" สาขา Kiyamizu ร้านคนค่อนข้างเยอะ ช่วงเราต่อคิวสั่งขนมและเล็งๆ หาที่นั่งกันโชคดีที่สั่งเสร็จแล้วมีคนลุกพอดี เซ็ตที่เราสั่งจะได้วาราบิโมจิ ขนมดังโงะ และชาเขียว 2 แก้ว เราชอบชาเขียวของร้านนี้มาเราสั่งแบบชาเขียวร้อน สัมผัสแรกที่ชาเข้าปากจะได้ความรู้สึกขม สักพักจะรู้สึกหวานหอมอยู่ในปาก ฟินขั้นสุด ชาเขียวดีๆ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
ตอนนี้ร้านต่างๆ ในตรอก Higashiyama ปิดเกือบหมดแล้ว ร้านต่างๆ ในเกียวโตปิดค่อนข้างไว 2 -3 ทุ่มก็เริ่มปิดแล้ว เราเลยกลับไปตั้งหลักกันที่ที่พักก่อน หลังจากเก็บของกันเรียบร้อยแล้วก็ตกลงกันว่าจะกลับไปกินร้านลุงเมื่อวานเพราะลุงเปิดดึก แต่โชคก็ไม่เข้าข้างเราวันอาทิตย์เป็นวันหยุดของร้านลุง อ๊ากกกก!!! ทำไงดีร้านปิดหมดแล้ว นึกสิๆๆๆๆ ในที่สุดเราก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานขากลับมาจากคืนกิโมโนเราเห็นร้าน Yoshinoya อยู่น่าจะเปิด 24 ชั่วโมง เดินข้ามสะพาน Shichijo ตรงไปเรื่อยๆ จะเจอ Yoshinoya อยู่ฝั่งซ้าย ร้านยังไม่ปิด เรารีบตรงดิ่งเข้ามาเพราะหิวมากแล้ว สั่งมาคนละ 1 เมนู พร้อมโคล่าและเบียร์
รสชาติแกงกะหรี่ที่นี่ดีกว่าแฟรนไชส์ที่อยู่ในบ้านเรา ใครที่ชอบแกงกะหรี่ควรลอง ขนาดเราไม่ได้ชอบมากยังคิดเลยว่าอร่อยไม่เลี่ยน อากาศหนาวๆ แบบนี้กินแกงกะหรี่ร้อนๆ เข้าไปก็ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นได้
รสชาติแกงกะหรี่ที่นี่ดีกว่าแฟรนไชส์ที่อยู่ในบ้านเรา ใครที่ชอบแกงกะหรี่ควรลอง ขนาดเราไม่ได้ชอบมากยังคิดเลยว่าอร่อยไม่เลี่ยน อากาศหนาวๆ แบบนี้กินแกงกะหรี่ร้อนๆ เข้าไปก็ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น